วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Trick จดได้ทันและจำได้ไว !!!!!

         http://www.sakura.in.th/club/talks/index.php

             สวัสดีค่าาาาา เพื่อนๆทุกๆคน กลับมาพบกันอีกแล้วนะค่ะสำหรับสัปดาห์ที่ 9 นี่ก็เป็นสัปดาห์สุดท้ายที่เราจะเจอกันเเล้วนะคะ ไม่ต้องร้องนะ5555555 สัปดาห์นี้มิ้นก็จะมาพูดถึง Trick ในการจดเลคเชอร์ให้จำได้ง่ายๆกันค่ะ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนไว้ได้จดอ่านสอบกันค่ะ ไปดูกันเลยกว่า


Trick 1 อ่าน / สรุป / เลคเชอร์
ก่อนที่เราจะจดเลคเชอร์ให้เราจำได้นั้นเราก็ต้องอ่านเพื่อทำความเข้าใจกับเนื้อหาในวิชานั้นก่อน เมื่อเรา
เข้าใจเเล้วเราก็จดสรุปเนื้อหานั้น โดยให้ใช้ภาษาของตัวเองหรือจะทำเป็นmind map ก็ได้เพราะมันจะทำให้เราจำได้ง่ายกว่าการที่เราขีดตามในหนังสือ 


Trick 2 จดให้ทัน
เมื่อเราอ่านและทำความเข้าใจกับเนื้อหานั้นแล้ว ขั้นต่อไปเราก็ต้องเลคเชอร์สิ่งที่เราเข้าใจนั้นลงไป ซึ่งเราก็ต้องเลคเชอร์แต่ในประเด็นสำคัญ และการใช้อักษรย่อหรือสัญลักษณ์ต่างๆ นั้นก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการที่เราจะเลคเชอร์ให้ทัน ที่สำคัญคือเราย่อเเล้วเราก็ต้องรู้และเข้าใจคำที่เราย่อด้วย 


Trick 3  ปากกาสีช่วยชีวิตได้
  มีคนกล่าวไว้ว่าเมื่อเราจดเลคเชอร์ด้วยปากกาสีนั้นสมองเราจะจดจำได้มากกว่าการจดด้วยปากกาธรรมดา  
มิ้นว่ามันจริงนะเเบบพอเราจดด้วยปากกาสีมันดุสวยอะ น่ารัก มันดูหลากหลายดีอะ มันทำให้น่าอ่านจริงๆนะ 
เเบบเราอยากเน้นตรงไหนเพื่อจำเราก้ใช้สีเด่นๆไรงี้ คือมันได้ผลจริงๆอันนี้มิ้นทำแล้วเห็นผลนะ








จบไปแล้วสำหรับสัปดาห์สุดท้ายที่มิ้นจะได้ทำ เป็นไงกันบ้างคะ อันนี้เป็นเเค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นที่จะช่วยให้เราเลคเชอร์ได้เร็ว เเละจำได้ง่ายขึ้น ถ้าเพื่อนๆคนไหนมี Trick เด้ดๆดีๆอยากแนะนำ เม้นกันมาได้เลยนะค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Review/แนะนำ การใช้งาน 1 โปรแกรม

TubeMusic

http://www.thaiware.com/upload_misc/software/2015_05/thumbnails/12044_150522122603J8.jpg

สวัสดีค่าาาาเพื่อนๆ พบกันอีกแล้วนะคะ 
สำหรับสัปดาห์ที่ 8 นี้ มิ้นจะพามารู้จักกับแอพตัวนึงคะ 
มิ้นคิดว่าเพื่อนๆหลายคนคงจะชอบที่จะฟังเพลงในเวลาว่างๆ กันนะคะ 
หรือเวลาที่รู้สึกเบื่อก็จะฟังเพลงกัน แต่บางครั้ง
ก็อาจจะรู้สึกเบื่อเพลงในมือถือของตัวเองขึ้นมา 
และก็ขี้เกียจดาวโหลดในคอมพิวเตอร์ให้ยุ่งยาก 
และวันนี้มิ้นจะพาไปรู้จักกับแอพที่จะได้โหลดเพลงไปฟังกันฟรีๆ 
ในมือถือของเรา โดยง่ายดายกันคะ ไปดูกันเลยยย>>>>>>>>





เมื่อเปิดแอพขึ้นมาจะมีหน้าตาแบบนี้นะคะ จะมีปุ่มหลักๆอยู่ 5 ปุ่ม ข้างล่างสุด ปุ่มแรก search เอาไว้สำหรับค้นหาเพลงที่เราอยากฟังหรืออยากโหลดเก็บไว้ในแอพได้เลยคะ






ปุ่มที่ 2 favorites ใช้เก็บเพลงที่เราชอบเป็นพิเศษ





ปุ่มที่ 3 nowplaying จะแสดงเพลงที่เรากดฟังอยู่ในขณะนั้น





ปุ่มที่ 4 playlists เราสามารถสร้างรายการเพลงที่เราชื่นชอบเก็บไว้ฟังได้





ปุ่มที่ 5 myvideos จะแสดงเพลงทั้งหมดที่เราเคยดาวน์โหลดไว้ทั้งหมด 





แอพนี้สามารถฟังเพลงพร้อมดูมิวสิควิดิโอได้เหมือนกับ youtube เลยนะคะ แต่ถ้าใครอยากจะฟังเพลงอย่างเดียวก็สามารถกดซ่อนแอพไว้ก่อน เพลงก็จะไม่ดับเหมือนกับฟังใน youtube นะคะ 
เพราะปกติเพื่อนๆ จะเห็นว่าถ้าเราฟังเพลง youtube แล้วเราพักหน้าจอเพลงนั้นก็จะดับลง





ขั้นตอนการดาวน์โหลดเพลง ให้กดไปที่ปุ่มลูกศรชี้ลงสีแดงด้านขวาของเพลงได้เลย ส่วนอันไหนที่ดาวน์โหลดแล้วจะขึ้นเป็นปุ่ม play สีเขียว





หากกดดาวน์โหลดแล้ว จะขึ้นเป็นปุ่มสีฟ้าแบบนี้ คือมันกำลังดาวน์โหลดคะ หากดาวน์โหลดเสร็จก็สามารถปิดอินเตอร์เน็ตและฟังเพลงได้เลยน้า



โดยความเห็นส่วนตัวมิ้นคิดว่าแอพนี้เป็นแอพฟังเพลงฟรีตัวนึงที่ไม่ธรรมดาเลยหละคะ สามารถใช้งานได้ง่าย โหลดเพลงได้สะดวกและรวดเร็ว ทำให้เราสามารถฟังเพลงที่เราอยากฟังได้ตลอดเวลาแม้ไม่มีอินเตอร์เน็ต 
สามารถสร้างรายการเพลงที่เราชื่นชอบได้เอง แล้วยังใช้เวลาในการโหลดเพลงแค่แปปเดียวเองนะคะ

หากใครอยากที่จะโหลดแอพนี้เก็บไว้สามารถเข้าไปโหลดได้ที่ >>> http://software.thaiware.com/12044-Tube-Music-for-Youtube-App.html



สุดท้ายนี้มิ้นก็ขอตัวไปก่อนนะคะ ขอเพื่อนๆ สนุกกับการโหลดเพลง และมีความสุขกับการฟังเพลงนะคะ บ๊ายบายค่าาาาา


http://www.forum.munkonggadget.com/upload/2011/04/20110405002027.jpg






ขอบคุณ : http://www.bloggang.com/data/s/sutipong/picture/1399177807.gif
https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjHB7HpAwNiS7fHrvem5q3uIPHDAQF1NZ5XXMvuYtXZceCXkRf5VakNi7axHjkBqS0hu1WW2XNFBypzNNBrd6_Bbna1Mo1w8fUQdBUPkvmFfSqVy8w2mZNItvS7xNBrBPUIRFWMRdMXKWQ/s1600/Line.baipak.blogspot29.gif

วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

คอมพิวเตอร์ และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์


สวัสดีค่ะ ^/\^ เพื่อนๆ นี่เป็นสัปดาห์ที่ 7 ของมิ้นแล้วนะคะ ในวันนี้มิ้นจะมานำเสนอเกี่ยวกับเรื่องคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ กันนะคะ
คอมพิวเตอร์
ภาพจาก : https://sorathun1884.files.wordpress.com/2014/08/images.jpg
คอมพิวเตอร์ หมายถึง  เครื่องคำนวณ  อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถทำงานคำนวณผลและเปรียบเทียบค่าตามชุดคำสั่งด้วยความเร็วสูงอย่างต่อเนื่องและอัตโนมัติ  พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2525 ได้ให้คำจำกัดความของคอมพิวเตอร์ไว้ค่อนข้างกะทัดรัดว่า  เครื่องอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติ 
ทำหน้าที่เสมือนสมองกล  ใช้สำหรับแก้ปัญหาต่างๆ ทั้งที่ง่ายและซับซ้อน โดยวิธีทางคณิตศาสตร์ 
หรืออาจกล่าวได้ว่า เครื่องคอมพิวเตอร์หมายถึง  เครื่องมือที่ช่วยในการคำนวณและการประมวลผลข้อมูล  จากคุณสมบัตินี้ของเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งไม่ใช่เครื่องคิดเลข  เครื่องคอมพิวเตอร์
จึงประกอบด้วยคุณสมบัติ 3 ประการคือ
1. ความเร็ว  (Speed)  เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้ด้วยความเร็วสูงมาก  ซึ่งหน่วยความเร็ว
ของการทำงานของคอมพิวเตอร์วัดเป็น
     - มิลลิเซกัน (Millisecond)      ซึ่งเปรียบเทียบความเร็วเท่ากับ 1/1000 วินาที  หรือ ของวินาที
     - ไมโครเซกัน (Microsecond) ซึ่งเทียบความเร็วเท่ากับ 1/1,000,000 วินาที    หรือของวินาที
     - นาโนเซกัน (Nanosecond)    ซึ่งเปรียบเทียบความเร็วเท่ากับ 1/1,000,000,000 วินาที  หรือของวินาที
 ความเร็วที่ต่างกันนี้ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แต่ละยุค  ซึ่งได้มีการพัฒนาให้เครื่องคอมพิวเตอร์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น  การใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ประมวลข้อมูล ได้เร็วในเวลา
ม่เกิน 1 วินาที  จะทำให้คอมพิวเตอร์มีบทบาทในการนำมาเป็นเครื่องมือใช้งานอย่างดียิ่ง
2. หน่วยความจำ (Memory)  เครื่องคอมพิวเตอร์ประกอบไปด้วยความจำ  
ภาพจาก : https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhvk_6K-LQ_VT0aYDdQhfV3eni1vuBS7MtS-dfjSn3FEo7AJKei_I2u20q2X9ugp9mr7rZfrPiGRnRaeOdpcxGIGcj8fbtGSLlIg7GIvzKYYk-RpdKJ_WHyVxgmuyDwk-bWazi46bCC8q4/s320/intro.jpg
ซึ่งสามารถใช้บันทึกและเก็บข้อมูได้คราวละมากๆ และสามารถเก็บคำสั่ง (Instructions) ต่อๆกัน
ได้ที่เราเรียกว่าโปรแกรม แลนำมาประมวลในคราวเดียวกัน ซึ่งเป็นปัจจัยทำให้คอมพิวเตอร์สามารถทำงานเก็บข้อมูลได้ครั้งละมากๆ เช่น    การสำรวจสำมะโนประชากร  หรือรายงานผลการเลือกตั้ง
ซึ่งทำให้มีการประมวลได้รวดเร็วและถูกต้อง   จากการที่หน่วยความจำสามารถบันทึกโปรแกรม
และข้อมูลไว้ในเครื่องได้  ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์มีคุณสมบัติพิเศษ  คือสามารถทำงานได้อย่างอัตโนมัติ   ในกรณีที่มีงานที่ต้องทำซ้ำๆหรือบ่อยครั้งถ้าใช้คอมพิวเตอร์มาช่วยในการทำงานเหล่านั้น
ก็จะทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงซึ่งจะได้ทั้งความรวดเร็ว  ถูกต้องแม่นยำและประหยัดเนื่องจากการ
เขียนคำสั่งเพียงครั้งเดียวสามารถทำงานซ้ำๆได้คราวละจำนวนมากๆ
3. ความสามารถในการเปรียบเทียบ (Logical)  ในเครื่องคอมพิวเตอร์ประกอบไปด้วยหน่วยคำนวณ
และตรรกะซึ่งนอกจากจะสามารถในการคำนวณแล้วยังสามารถใช้ในการเปรียบเทียบซึ่งความสามารถนี้เองที่ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ต่างกับเครื่องคิดเลข และคุณสมบัตินี้ทีทำให้นักคอมพิวเตอร์
สร้างโปรแกรมอัตโนมัติขึ้นใช้อย่างกว้างขวาง เช่นการจัดเรียงข้อมูลจำเป็นต้องใช้วิธีการเปรียบเทียบ การทำงานซ้ำๆตามเงื่อนไขที่กำหนด หรือการใช้คอมพิวเตอร์ในกิจการต่างๆซึ่งเกิดขึ้นมากมาย
ในปัจจุบันและการใช้แรงงานจากคอมพิวเตอร์แทนแรงงานจากมนุษย์ทำให้รวดเร็วถูกต้อง 
สะดวกและแม่นยำ เป็นการผ่อนแรงมนุษย์ได้เป็นอย่างมาก

 ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เส้นคั่น


ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

ภาพจาก : https://encrypted-tbn1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcR0eXrn7I04LW-a3lTVKh8DJ_ibKbRzoXWLx1IrdKs-jAoUX380
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (computer network)  คือ ระบบที่มีคอมพิวเตอร์อย่างน้อยสองเครื่องเชื่อมต่อกันโดยใช้สื่อกลาง และสามารถสื่อสารข้อมูลกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์
แต่ละเครื่องสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันได้  นอกจากนี้ยังสามารถใช้ทรัพยากรที่มี
อยู่ในเครือข่ายร่วมกันได้ เช่น เครื่องพิมพ์ สแกนเนอร์ ฮาร์ดดิสก์ เป็นต้น  การใช้ทรัพยากรเหล่านี้
ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก  เมื่อมีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายอื่นๆ 
ที่อยู่ห่างไกล เช่น ระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นเครือข่ายที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ทั่วโลก  ก็ทำให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร ได้กับคนทั่วโลก โดยใช้แอพพลิเคชั่น เช่น เว็บ อีเมลล์ เป็นต้น

ภาพจาก : https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi4z3uIGIxfPmCgh5zhqbTmR0k3JNt7Cqu4zLe6vj8Q-Gf7NZ6DjIJMI-lDneD2cETYxLauOZB114eqqLBZtsV6vKfv0sGVELqJ1nbRj1Y_B900B3GisAgzqHF5dh1g44OWHP55eoe1mn4/s640/searchimprovements.png
        การสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์มีที่มาจากผู้ที่ต้องการแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว คอมพิวเตอร์นั้นเป็นอุปกรณ์ที่มีความสามารถในการประมวลข้อมูลในปริมาณมากได้อย่างรวดเร็ว แต่มีข้อเสียคือ ผู้ใช้ไม่สามารถแชร์ข้อมูลกับคนอื่นๆได้ ดังนั้น ก่อนมีการสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ผู้ใช้จะแลกเปลี่ยนข้อมูลกันโดยการ พิมพ์(print) ข้อมูลออกมาเป็นเอกสารก่อนแล้วค่อยนำไปให้ผู้ใช้ที่ต้องการใช้หรือแก้ไขข้อมูลอีกคนหนึ่ง ซึ่งทำให้เสียเวลาและเป็นวิธีที่ยุ่งยากมากเมื่อเปรียบเทียบกับปัจจุบันที่มีการใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์แล้ว
        การทำสำเนา(copy) หรือ บันทึก(save) ข้อมูลลงในแผ่นดิสก์(floppy disk) แล้วส่งให้คนอื่นก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่นิยมใช้กันก่อนที่จะมีการสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และนับว่าเป็นวิธีที่เสียเวลาและยุ่งยากน้อยกว่าการส่งเป็นแผ่นกระดาษ เนื่องจากไม่ต้องเสียเวลาในการแปลงข้อมูล เพราะคอมพิวเตอร์สามารถอ่านข้อมูลในแผ่นดิสก์ได้เลย การใช้คอมพิวเตอร์ลักษณะนี้เรียกว่า sneakernet หรือ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีคนเป็นสื่อรับส่งข้อมูล การใช้เครือข่ายแบบ sneakernet นี้ ถือว่ายังช้ามากเมื่อเทียบกับความเร็วของคอมพิวเตอร์ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันการใช้คอมพิวเตอร์ลักษณะนี้ก็ยังมีการใช้กันอยู่บ้างในองค์กรที่ไม่มีระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
           การใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กันโดยสายสัญญาณ การถ่ายโอนข้อมูลระหว่างเครื่องจะเร็วมากเนื่องจากการเดินทางของข้อมูลผ่านสายสัญญาณนี้ จะมีความเร็วเกือบเท่าความเร็วแสง เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าผู้ใช้คอมพิวเตอร์จะอยู่ห่างกันแค่ไหน การแลกเปลี่ยนข้อมูลก็จะเร็วกว่าการใช้แผ่นดิสก์มาก เครือข่ายแบบนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถแชร์ข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
องค์ประกอบของระบบเครือข่าย
          ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ มีองค์ประกอบที่สำคัญ เพื่อการเชื่อมต่อเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ได้แก่ คอมพิวเตอร์แม่ข่าย (File Server) ช่องทางการสื่อสาร (Communication Chanel) สถานีงาน (Workstation or Terminal) และ อุปกรณ์ในเครือข่าย (Network Operation System)
ประโยชน์ของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
 ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์หนึ่งเครือข่ายจะมีการทำงานรวมกันเป็นกลุ่ม ที่เรียกว่า กลุ่มงาน (workgroup) แต่เมื่อเชื่อมโยงหลายๆ กลุ่มงานเข้าด้วยกัน ก็จะเป็นเครือข่ายขององค์กร และถ้าเชื่อมโยงระหว่างองค์กรผ่านเครือข่ายแวน ก็จะได้เครือข่ายขนาดใหญ่ขึ้น การประยุกต์ใช้งานเครือข่ายคอมพิวเตอร์เป็นไปอย่างกว้างขวางและสามารถใช้ประโยชน์ได้มากมาย ทั้งนี้เพราะระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ทำให้เกิดการเชื่อมโยงอุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน และสื่อสารข้อมูลระหว่างกันได้ ประโยชน์ของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ มีดังนี้
 การใช้อุปกรณ์ร่วมกัน (Sharing of peripheral devices)
 เครือข่ายคอมพิวเตอร์ทำให้ผู้ใช้ สามารถใช้อุปกรณ์ รอบข้างที่ต่อพ่วงกับระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่นเครื่องพิมพ์ ดิสก์ไดร์ฟ ซีดีรอม สแกนเนอร์ โมเด็ม เป็นต้น 
ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่ต้องซื้ออุปกรณ์ที่มีราคาแพง เชื่อมต่อพ่วงให้กับคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง
 การใช้โปรแกรมและข้อมูลร่วมกัน (Sharing of program and data)

ภาพจาก : https://encrypted-tbn1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRPLzapE7amWcJTdgKWVCBwUFTKXCYhTBDnhV5ZGtt5gijutCRz
 เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้โปรแกรม และข้อมูลร่วมกันได้ โดยจัดเก็บโปรแกรมไว้แหล่งเก็บข้อมูล ที่เป็นศูนย์กลาง เช่น ที่ฮาร์ดดิสก์ของเครื่อง File Server ผู้ใช้สามารถใช้โปรแกรมร่วมกัน ได้จากแหล่งเดียวกัน ไม่ต้องเก็บโปรแกรมไว้ในแต่ละเครื่อง ให้ซ้ำซ้อนกัน นอกจากนั้นยังสามารถรวบรวม ข้อมูลต่าง ๆ จัดเก็บเป็นฐานข้อมูล ผู้ใช้สามารถใช้สารสนเทศ จากฐานข้อมูลกลาง ผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร ์ที่ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย โดยไม่ต้องเดินทางไปสำเนาข้อมูลด้วยตนเอง เพราะใช้การเรียกใช้ข้อมูล ผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์นั่นเอง เครื่องลูก (Client) สามารถเข้ามาใช้ โปรแกรม ข้อมูล ร่วมกันได้จากเครื่องแม่ (Server) หรือระหว่างเครื่องลูกกับเครื่องลูกก็ได้ เป็นการประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บโปรแกรม ไม่จำเป็นว่าทุกเครื่องต้องมีโปรแกรมเดียวกันนี้ในเครื่องเอง  สามารถติดต่อสื่อสารระยะไกลได้ (Telecommunication) การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ เป็นเครือข่าย
ทั้งประเภทเครือข่าย LAN , MAN และ WAN ทำให้คอมพิวเตอร์ สามารถสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูล 
ระยะไกลได ้โดยใช้ซอฟต์แวร์ประยุกต์ ทางด้านการติดต่อสื่อสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีการให้บริการต่าง ๆ มากมาย เช่น การโอนย้ายไฟล์ข้อมูล การใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail) การสืบค้นข้อมูล (Serach Engine) เป็นต้น 

ภาพจาก : https://encrypted-tbn2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQfYh7yt1Fk_FRV_mYifCdU7WmPUUur9bSNL2ha7lrTeM4Qr5HdYw




http://www.thaigoodview.com/files/u102581/98478.gif

ที่มา : www.thaigoodview.com/node/129816
http://guru.sanook.com/4145/
www.il.mahidol.ac.th/e-media/computer/network/net_network1.htm
https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRryF-a4BP9hUFRGttX1VBgxC6MqJ3C-TF96Tn0vWCJbHEOjLabfg

วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

วิเคราะห์ข้อสอบ O-Net คอม (5ข้อ)

http://www.smeep35.info/datas/users/admin/article/108.jpg


1.ข้อใดเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้องตามหลักวิชาการเมื่อค้นคว้า หาข้อมูลจากอินเทอร์เนตมาทำรายงาน (พ.ศ.2554)
     1.คัดลอกเนื้อหาจากเว็บไซต์
     2.ใช้เนื้อหาจากกระดานสนทนา (Web board) มาใส่ในรายงาน
     3.นำรูปภาพจากเว็บไซต์มาใส่รายงาน
     4.อ้างอิงชื่อผู้เขียนบทความ

เฉลย 4
วิเคราะห์ ---> การนำข้อมูลจากทางอินเทอร์เนตมาทำรายงานต่างๆ ควรต้องให้เกียรติผู้ให้ข้อมูล และเจ้าของข้อมูลนั้นๆ


2.ห้องสมุดแห่งหนึ่งต้องการพัฒนาระบบยืมหนังสือโดยสามารถบันทึกข้อมูลการยืมหนังสือลงบนบัตรอิเลคโทรนิกส์โดยไม่ต้องเขียนด้วยมือระบบนี้ควรใช้เทคโนโลยีในข้อใด (พ.ศ.2555)
     1.Smart Card
     2.Fingerprint
     3.Barcode
     4.WiFi

เฉลย 3 
วิเคราะห์ ---> เพราะว่า เราสามารถสังเกตได้จากห้องสมุด บริเวณแทบด้านข้าง ที่มีรหัสเส้นบาร์โค้ดที่อยู่ ที่เราสามารถใช้ยืมคืนหนังสือได้


3.ส่วนประกอบใดของโปรแกรม Internet Explorer ที่ทำหน้าที่แสดงที่อยู่ของเว็บไซต์
     1.แถบชื่อ
     2.แถบสาธารณะ
     3.พื้นที่แสดงเว็บเพจ
     4.แถบที่อยู่ของเว็บไซต์

เฉลย 4
วิเคราะห์ ---> แถบชื่อ - แสดงชื่อและโปรแกรมที่กำลังใช้งาน
แถบสาธารณะ - แถบที่แสดงข้อมูลสถานะปัจจุบันของโปรแกรม
พื้นที่แสดงเว็บเพจ - พื้นที่ใช้แสดงเว็บเพจ


4.ข้อใดเป็นระบบปฏิบัติการทั้งหมด (พ.ศ.2553)
     1.IPX RAM
     2.WWW Window
     3.Linux Windows
     4.Unix Office

เฉลย 3
วิเคราะห์ ---> ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์
                       1.ระบบปฏิบัติการ DOS (Disk Operating System)
                       2.ระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows
                       3.ระบบปฏิบัติการ Unix
                       4.ระบบปฏิบัติการ Linux


5.ข้อใดไม่ใช่ระบบปฏิบัติการที่นำมาใช้บนอุปกรณ์พกพาประเภท Smartphone (พ.ศ.2550)
     1.Ubumtu
     2.Iphone os
     3.Android
     4.Symbian

เฉลย 1
วิเคราะห์ ---> เพราะว่า Ubumtu เป็นระบบปฏิบัติการใน pc และโน๊ตบุคเหมือนกับวินโดว์ และแมค เป็นระบบที่มีสมาชิกทั่วโลกร่วมกันพัฒนา และแจกฟรี แต่ที่เหลือนั้นคือระบบปฏิบัติการที่นำมาใช้



http://pics.unigang.com/news/79.jpg





ที่มา : http://www.slideshare.net/rilerilept/onetwork450
 http://tongrod-tongrod.blogspot.com/2012/02/o-net.html
https://sites.google.com/site/programcomputer56/home/phasa-khxmphiwtexr 

วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ดับกระหาย คลายร้อน ด้วยไอติมเยลลี่

 สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาวบล็อคทุกคนนะคะ เพื่อนๆเห็นแดดในประเทศของเรากันใช่ไหมคะ บอกได้คำเดียวคะว่าร้อนสุดๆ นับวันยิ่งร้อนขึ้นเป็นทวีคูณ ทำให้ตัวเรานี่แทบจะละลายเลยนะคะ 
ตอนนี้มิ้นคิดว่าไม่มีอะไรจะคลายร้อนและคลายหิวไปได้มากกว่า
ไอติมแล้วหละ ตอนเจอแดดร้อนๆมาเนี่ย ถ้าได้ทานไอติมหวานๆ เย็นๆ เคี้ยวได้ แถมซ่าด้วย บอกได้เลยคะว่าเย็นชื่นใจจริงๆ มิ้นก็เลยมีวิธีทำไอติมแบบแสนจะง่ายดาย มาฝากเพื่อนๆทุกคนกันนะคะ ตามไปดูกันเลยยย






มาดูอุปกรณ์ที่เราจำเป็นต้องมีกันนะคะ



1.แม่พิมพ์สำหรับทำไอติมคะ อันนี้มิ้นซื้อมาจากที่ร้าน
ทุกอย่าง 20 คะ ถูกมากๆเลย ลองไปหาซื้อดูนะ






2.น้ำอัดลมคะ เลือกตามรสชาติที่เราชอบเลย หรือใครอยากจะรักสุขภาพขึ้นมาหน่อยก็ลองเปลี่ยนเป็นน้ำผลไม้ดูบ้างก็ได้นะ 







3.เยลลี่ อันนี้ก็เลือกตามความชอบอีกคะ ใครชอบยี่ห้อไหนเลือกได้เลย เยลลี่มีให้เลือกหลากหลายแบบจริงๆ 





มาถึงขั้นตอนการทำคะ

1.เตรียมล้างแม่พิมพ์ให้สะอาด






2.ใส่เยลลี่ลงไปในแม่พิมพ์แต่ละช่อง ใส่ไปเลย 
แล้วแต่ใครอยากใส่มากใส่น้อย ตามความต้องการ






3.เทน้ำจนเต็มให้ครบทุกช่อง






4.นำไปใส่ตู้เย็น ในช่องแช่แข็งเลย รอเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
 แล้วแต่ความเย็นของตู้เย็นแต่ละคน





5.นำออกจากตู้เย็นมาแล้วดึงออกจากแม่พิมพ์ ถ้าใครดึงไม่ออกแนะนำให้ไปแช่น้ำเปล่าเฉพาะพลาสติกด้านล่างแปปนึง
แล้วค่อยดึงออกอย่างง่ายดาย





6.finish !! ได้เป็นไอติมเยลลี่พร้อมทานแล้วค่าา














ที่มา : http://f.ptcdn.info/717/014/000/1390232470-02071498-o.gif
http://www.yenta4.com/dookdik/upload/10/10/46559b49413f5.gif
http://images.thaiza.com/195/195_201010112323072..gif
http://shinobu.exteen.com/images/l7.gif













วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558

โปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์

โปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ Programming Languages

ภาพจาก : https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhdBLDH1vBEDg6k0tdBNun2-hLS1__m1-PvlDYvgi_HbRJpDQU3lsJT-Z5CMDMq66ni-zOu0VaA2TIDwmqdGj1DByfpWcprHZCJV-e8fPTTqFROCn-Vl92SnDRFrii4TFk6iyy6nLI5ipEJ/s1600/25666%5B1%5D.jpg
       สวัสดีค่ะ ทุกๆคน ฉันคิดว่าทุกคนพอจะทราบเกี่ยวกับภาษาคอมพิวเตอร์ใช่ไหมค่ะ วันนี้ดิฉันจะนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับภาษาคอมพิวเตอร์ ให้ทุกคนได้ทราบกันเพิ่มเติมนะค่ะ   

      โปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ Programming Languages คือ เครื่องมือที่มนุษย์ใช้สื่อสารกับเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยแต่ละภาษาจะมีลักษณะเฉพาะตัวที่ชัดเจน มีคำศัพท์ที่ใช้จำนวนจำกัด
ร ะดับของภาษา(Level of Languages) มีดังนี้
1.ภาษาเครื่อง(Machine Languages)
2.ภาษาแอสแซมบลี(Assembly Languages)
3.ภาษาระดับสูง(High-level Languages)
4.ภาษาระดับสูงมาก(Very High-level Languages)
5.ภาษาธรรมชาติ(Natural Languages)

     ดังนั้นเรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับระดับของภาษากันเลยนะค่ะ จะได้ทราบว่าระดับของภาษาใช้เขียนอย่างไร
ภาพจาก : http://cdn2.ubergizmo.com/wp-content/uploads/2014/02/kentucky-languages.png
1.ภาษาเครื่อง : เป็นภาษาที่มีระดับต่ำที่สุด โดยจะเขียนด้วยระบบฐานสอง ซึ่งมีเพียง 0 กับ 1 เท่านั้น
ภาพจาก : http://neung.kaengkhoi.ac.th/mdata/pic/P048A.jpg

2.ภาษาแอสแซมบลี : จัดเป็นภาษาระดับต่ำมาก ใช้ตัวย่อ หรือรหัสย่อในการเขียนโปรแกรม เช่น A คือรหัสของ Add , C คือ Compare เป็นต้น และตัวแปลภาษา Assembly คือ Assembler
คอมพิวเตอร์สามารถกระทำการ (Excute) ได้เฉพาะภาษาเครื่องเท่านั้น ดังนั้นหากเราเขียนด้วยภาษาใดๆ ก็ตามที่มิใช่ภาษาเครื่อง จะต้องใช้ตัวแปลภาษา(Translator) เพื่อแปลภาษาโปรแกรมที่เขียนให้เป็นภาษาที่เครื่อง เข้าใจ
3.ภาษาระดับสูง : เป็นภาษาโปรแกรมยุคที่ 3 ที่เป็นภาษาระดับสูงโปรแกรมจะเขียนในลักษณะคล้ายภาษาอังกฤษ ทำให้เขียนได้ง่ายขึ้น และสำหรับตัวแปลภาษาโปรแกรมเหล่านี้คือ คอมไพเลอร์ (Compiler) โดยคอมไพเลอร์จะทำหน้าที่แปล Souce Program ให้เป็น Oject Program โดยแปลครั้งเดียว ยกตัวอย่างภาษาโปรแกรมระดับสูงเช่น Fortran , Basic, pascal, C, Cobol
4.ภาษาระดับสูงมาก : เป็นภาษาโปรแกรมยุคที่ 4 ซึ่งเป็นภาษาระดับสูงมาก จัดเป็นภาษาไร้กระบวนคำสั่ง หมายความว่าผู้ใช้ เพียงบอกแต่ว่าให้คอมพิวเตอร์ทำอะไร โดยไม่ต้องบอกคอมพิวเตอร์ว่าสิ่งนั้นทำอย่างไร เรียกว่าเป็นภาษาเชิงผลลัพธ์ คือเน้นว่าทำอะไร ไม่ใช่ทำอย่างไร ดังนั้นจึงเป็นภาษาโปรแกรมที่เขียนง่าย

5.ภาษาธรรมชาติ : เป็นภาษาโปรแกรมยุคที่ 5 ซึ่งคล้ายกับภาษาพูดตามธรรมชาติของคน การเขียนโปรแกรมง่ายที่สุด คือการเขียนคำพูดของเราเองว่าเราต้องการอะไร ไม่ต้องใช้คำสั่งงานใดๆ เลย

ภาพจาก : http://www4.csc.ku.ac.th/~b5240200866/Image/alg2.jpg

ตัวอย่างภาษาในยุคต่างๆ ดังนี้


ภาพจาก : https://www.grid.wayne.edu/files/images/tutorials/grid_environment/fortran/fortran19.jpg

Fortran : ภาษาระดับสูงภาษาแรก เป็นภาษาโปรแกรมที่ใช้งานด้านวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และด้านคณิตศาสตร์ ภาษาฟอร์เทนจะประกอบด้วยข้อความ คำสั่ง ทีละบรรทัด

Colbol : ภาษาโปรแกรมสำหรับธุรกิจ ที่มีลักษณะคล้ายกับภาษาอังกฤษ และที่สำคัญคือ เป็นภาษาโปรแกรมที่อิสระจากเครื่อง หมายความว่า โปรแกรมที่เขียนขึ้นใช้งานบนคอมพิวเตอร์ชนิดหนึ่งเพียงแค่ปรับปรุงเล็กน้อยก็สามารถรันได้บนคอมพิวเตอร์อีกชนิดหนึ่ง

Basic : ภาษาโปรแกรมสำหรับผู้เริ่มต้น เป็นภาษาโปรแกรมที่เรียนรู้ง่าย ไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับใช้ในวงการศึกษา

Pascal : เป็นภาษาสำหรับการเรียนการสอนโดยเฉพาะ เป็นภาษาที่เขียนง่าย ใช้ถ้อยคำน้อย
Ada : ภาษามาตรฐาน ซึ่งพัฒนาขึ้นโดย โปรแกรมเมอร์คนแรก คือ เคาต์ Add Lovelace เป็นภาษาที่ประสบความเร็จกับงานด้านธุรกิจ

C : ภาษาสมับใหม่ เป็นภาษาที่ใช้สำหรับเขียนโปรแกรมระบบปฎิบัติการ เหมาะสำหรับโปรแกรมเมอร์ที่มีความสามารถสูง

ALGOL : เป็นภาษาที่ใช้เขียนโปรแกรมด้านวิทยาศาสตร์

LISP : เป็นภาษาที่ใช้เมื่อประมวลผลด้านสัญลักษณ์อักขระ,หรือคำต่างๆ ซึ่งเป็นการได้ตอบระหว่างคนกับคอมพิวเตอร์ ภาษานี้นิยมใช้เขียนโปรแกรมด้านปัญญาประดิษฐ์

Prolog เป็นภาษาโปรแกรมสำหรับงานด้านปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งแทนการใช้ภาษาLISP

PL/1 : เป็นภาษาที่เรียนรู้ง่าย ใช้งานทั้งด้านวิทยาศาสตร์ และด้านธุรกิจ ดังนั้นภาษานี้จะมีขนาดใหญ่ มี option มาก

ALP : เป็นภาษที่เหมาะสมกับการทำตาราง มีสัญลักษณ์ต่างๆ มาก

Logo เป็นภาษาย่อยของ lisp เป็นโปรแกรมสำหรับเด็ก มีการสนทนาโต้ตอบกับคอมพิวเตอร์ โดยใช้ "เต่า" เป็นสัญลักษณ์โต้ตอบกับคำสั่งง่ายเช่น forward, left

Pilot : เป็นภาษาโปรแกรมที่นิยมใช้มากที่สุดในการเขียนโปรแกรมบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน(CAI) เช่น งานเกี่ยวกับคำสั่ง ฝึกหัด การทดสอบ เป็นต้น

Smalltalk : เป็นภาษาเชิงโต้ตอบกับเครื่องคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยการจำ และการพิมพ์ เป็นภาษาที่สนับสนุนระบบคอมพิวเตอร์ภาพ เป็นภาษาเชิงวัตถุไม่ใช่เชิงกระบวนการ

Forth : เป็นภาษาสำหรับงานควบคุมแบบทันที เช่นการแนะนำกล้องดาราศาสตร์ และเป็นภาษาโปรแกรมที่มีความเร็วสูง

Modula-2 : คล้ายคลึงกับภาษาปาสคาล ออกแบบมาเพื่อให้เขียนซอฟต์แวร์ระบบ

RPG เป็นภาษาเชิงปัญหา ออกแบบมาเพื่อใช้แก้ปัญหาการทำรายงานเชิงธุรกิจ เช่น การปรับปรุงแฟ้มข้อมูล


ที่มา : http://www.pbps.ac.th/e_learning/combasic/com_languages.html
http://image.dek-d.com/27/0337/2755/115225572
http://misc.home.news.cn/public/images/original/00/02/DA/6B/6B.gif
http://uc.exteen.com/love-is-love/images/pooh/baby-pooh-icon-emoticon-011.gif
http://dookdik.kapook.com/upload/whatsnew/35119.gif